ปัญหาที่ผู้บริหารหลายคนเจอ 
ไม่ใช่ "ทีมไม่มีความสามารถ"
แต่คือ “ทีมไม่กล้าเชิงรุก" 
รอคำสั่ง และไม่เห็นภาพเป้าหมายเดียวกัน

​

วันนี้กับกรณีศึกษา "พัฒนาทีมงานเชิงรุก” สำหรับกลุ่มโรงงานด้านพลังงาน
พร้อมสร้างแรงขับเคลื่อนภายในด้วยทฤษฎีภาพในใจ (Mental Picture Theory)

​

สถานการณ์ปัญหาก่อนการพัฒนา
โรงงานกลุ่มพลังงานแห่งหนึ่งประสบปัญหา “ทีมงานขาดแรงจูงใจเชิงรุก” โดยเฉพาะในสายการผลิตและซ่อมบำรุง ทีมงานส่วนใหญ่มีทักษะทางเทคนิคสูง แต่มีลักษณะการทำงานแบบ รอคำสั่ง และ หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบข้ามสายงาน

​

ส่งผลให้
- การสื่อสารระหว่างแผนกไม่ราบรื่น
- เกิดความล่าช้าในการแก้ปัญหาเครื่องจักร
- ผู้บริหารระดับกลางต้องคอย “ดับไฟ” และทำงานเชิงรับ
- พนักงานรุ่นใหม่รู้สึกว่า “องค์กรไม่เปิดโอกาสให้แสดงศักยภาพ”

​

แนวทางการพัฒนา โดยใช้วิธี "การนำตนเองเชิงรุก" เพื่อปรับกรอบความคิดของทีมงานจาก “ผู้ปฏิบัติ” ไปสู่ “ผู้ขับเคลื่อน”

​

1.สร้างความคิดเชิงระบบ
- มุ่งเน้นให้ทีมงานทราบว่า ศักยภาพแท้จริงไม่ได้มาจากทักษะเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก “การนำตนเองเชิงรุก (Proactive Self-Leadership)”
- จุดประกายให้เกิดการสะท้อนความคิด (Reflection) และการตั้งคำถาม “ภาพในใจของฉันต่อบทบาทงานคืออะไร?”
- ฝึกการสร้าง Mental Picture ของตนเองในฐานะ “ผู้ร่วมขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กรพลังงาน”

​

2.การลงมือออกแบบภาพในใจของทีม 
- ทีมงานร่วมกันระบุว่า “ภาพในใจของทีมที่เข้มแข็งและสอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร” ควรเป็นอย่างไร
- ร่วมกันกำหนดพฤติกรรมเชิงรุก เช่น การสื่อสารเชิงสร้างสรรค์เมื่อเกิดปัญหา, 
การเสนอแนวทางปรับปรุงก่อนรอคำสั่ง,การรับผิดชอบข้ามสายงานในโครงการพัฒนาประสิทธิภาพพลังงาน
- ผู้บริหารทำหน้าที่เป็น Coach มากกว่า Controller เพื่อส่งเสริมให้ภาพในใจนี้เกิดขึ้นจริงในงานประจำวัน

​

ผลลัพธ์ที่มีแนวโน้มอาจเกิดขึ้น
✅ ทีมงานเริ่ม “มองเห็นตนเองเป็นส่วนหนึ่งของภาพรวมองค์กร”
→ เกิดความภาคภูมิใจและมีแรงขับภายใน (Intrinsic Motivation)
✅ ผู้บริหารระดับกลางรายงานว่า “การประชุมประจำวันมีการเสนอแนวคิดใหม่ๆ มากขึ้น”
✅ แผนกซ่อมบำรุงและผลิตเริ่มทำงานเชิงรุก เช่น วางแผน Preventive Maintenance ร่วมกัน
✅ อัตราการแก้ปัญหาซ้ำซ้อน (Repeat Issues) ลดลงภายในช่วงเวลาที่กำหนด
✅ บรรยากาศในทีมเปลี่ยนจาก “รอคำสั่ง” เป็น “ขออาสา”

​

บทเรียนสำหรับผู้บริหาร

1.การเปลี่ยนกรอบความคิดสำคัญกว่าการเพิ่มทักษะ
ทักษะช่วยให้ “ทำได้” แต่กรอบความคิดที่ถูกต้องช่วยให้ “อยากทำ” และ “ทำอย่างมีความหมาย”

​

2.ภาพในใจ (Mental Picture) คือแรงขับภายในที่แท้จริง
เมื่อทีมมีภาพร่วมกันที่ชัด เช่น “เราเป็นทีมที่ขับเคลื่อนพลังงานสะอาดแห่งอนาคต” พวกเขาจะเชื่อมโยงพลังงานของตนเข้ากับเป้าหมายองค์กรโดยอัตโนมัติ

​

3.บทบาทผู้นำต้องเปลี่ยนจากสั่งการ → โค้ช (Coach)
เพื่อให้คนในทีมค้นพบ “ภาพในใจของตนเอง” และเชื่อมเข้ากับภาพรวมองค์กร

​

สรุปผลเชิงกลยุทธ์

การประยุกต์ใช้ Mental Picture Theory ในการพัฒนาทีมงานเชิงรุก ช่วยให้ผู้บริหารในโรงงานกลุ่มพลังงาน
- แก้ปัญหาพฤติกรรมเชิงรับของทีม
- พัฒนา “กรอบความคิดแห่งการนำตนเอง”
- สร้างวัฒนธรรมการทำงานเชิงรุกและร่วมมือ ซึ่งเป็นรากฐานขององค์กรที่ขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืนในอุตสาหกรรมพลังงานยุคใหม่

การนำตนเองเชิงรุกทางออกของปัญหา
โดย ภก.ดร.จันทรชัย ถวิลพิพัฒน์กุล Ph.D., LLL สถาบันอินทรานส์
[ Intrans-Hipot x KASME ]
------------
อ่านบทความอื่นๆได้ทาง: https://www.kasmethai.com/ทรัพยากรบุคคล
------------
สถาบัน KASME🔵
รหัสสถาบัน 06-153(สภาฯบัญชี) 
รหัสองค์กร 3-0011(กรมสรรพากร)
Website: www.kasmethai.com
x
สถาบัน Intrans
การปฏิรูปศักยภาพมนุษย์อย่างบูรณาการ
Website: www.intranshipot.com
.
.
ร่วมทำแบบสอบถามกับเราได้ผ่านทางลิ้งค์ด้านล่างนี้ รับทันทีของขวัญก่อนสิ้นปีส่งตรงจากสถาบัน KASME ❤ถึงบ้านคุณ https://forms.gle/A68pQxZmh8QxaC2TA
.
.
#อบรม #บัญชี #ภาษี #ฝึกอบรม #สัมมนา #ทักษะ #หลักสูตร #cpd #สรรพากร #sme #กิจการ #ผู้ทำบัญชี #ผู้บริหาร #บุคคล #KASMEInstitute #IntransHipot #สถาบันคัสเม่ #สถาบันอินทรานส์ #HRD #LeadershipDevelopment #MentalPictureTheory #พัฒนาทีมงานเชิงรุก #การนำตนเอง #พลังงานยั่งยืน