1 บาทก็ไม่เว้น! ไทยคุมเข้มนำเข้าสินค้าออนไลน์ ปิดช่องโหว่การแข่งขันไม่เป็นธรรม #ภาษีศุลกากร
- Kasme Co., Ltd.

- 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ

เริ่มเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าผ่าน E-commerce ทุกชิ้น 1 มกราคม 2569!
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรเตรียมเริ่มจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าที่สั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์ม E-commerce จากต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ และเคยได้รับการยกเว้นภาษี ทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการในไทย
ที่ผ่านมา สินค้านำเข้ามูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ได้รับการยกเว้น
สินค้านำเข้าราคาไม่เกิน 1,500 บาท ได้รับการยกเว้นทั้ง ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และ อากรนำเข้า ตามหลัก De minimis Value เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้า แต่ต่อมาในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคม 2567 ได้เริ่มทำการจัดเก็บ VAT สำหรับสินค้านำเข้าทุกรายการ
มาตรการใหม่ ลดเพดานยกเว้นเหลือ 1 บาท
อย่างไรก็ตาม การยกเว้นอากรนำเข้า ยังคงทำให้ผู้ค้าในประเทศเสียเปรียบ และทำให้สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานมีโอกาสทะลักเข้ามาในประเทศมากขึ้น กรมศุลกากรจึงได้เตรียมลดมูลค่าสินค้านำเข้าขั้นต่ำที่ได้รับการยกเว้นอากรจาก 1,500 บาท เหลือ 1 บาท หมายความว่า สินค้ามูลค่าเกิน 1 บาท ต้องเสียทั้งอากรนำเข้าและ VAT โดยมาตรการนี้อยู่ภายใต้อำนาจอธิบดีกรมศุลกากรและได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง เริ่มเก็บจริง 1 มกราคม พ.ศ.2569
การจัดเก็บอากรนำเข้าสินค้าที่สั่งผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์จะเริ่มวันที่ 1 ม.ค.2569 และจะไม่ต่ออายุประกาศยกเว้นภาษีที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2568 ซึ่งคาดการณ์ว่ารัฐจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อปี โดยเฉลี่ยประกอบด้วย
- อากรนำเข้า: 10%
- VAT: 7%
ในอนาคตกรมศุลกากรยังมีแผนผลักดันให้ภาษีนำเข้าออนไลน์เป็น “อัตราเดียว” เพื่อให้ชัดเจนและง่ายขึ้น
เตรียมหารือ Shopee – Lazada
กรมศุลกากรได้นัดประชุมกับแพลตฟอร์มใหญ่ เช่น Shopee และ Lazada วันที่ 7 พ.ย.2568 เพื่อขอความร่วมมือเรื่อง
- การส่งข้อมูลให้ศุลกากรตรวจปล่อยสินค้า
- ตรวจสอบมูลค่าสินค้า อากรนำเข้า และ VAT
- ห้ามขายสินค้าที่ไทยไม่อนุญาตให้นำเข้า เช่น บุหรี่ไฟฟ้า หรือสินค้าที่ไม่มี มอก.
ผลักดันนโยบาย “Customs Quick Big Win” ใน 4 เดือน
กรมศุลกากรยังเดินหน้าโครงการเร่งรัดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ควบคู่กับการปกป้องสังคมและจัดเก็บรายได้อย่างเป็นธรรม โดยมีแนวทางสำคัญ ได้แก่
1) อำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Enabler)
- ปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค
- เร่งคืนภาษี เงินวางประกัน และเงินชดเชย โดยพิจารณาจากยอดขอคืนที่สูงก่อน
- เร่งพิจารณาอุทธรณ์กว่า 1,000 เรื่อง โดยเพิ่มประชุมคณะกรรมการเป็นอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง
2) ปรับปรุงกระบวนการตรวจปล่อยสินค้า
- ยกระดับมาตรฐานการตรวจปล่อย
- ปรับการบริหารความเสี่ยงจากรูปแบบ Transaction base → Entity base ลดภาระผู้ประกอบการสุจริต
- อำนวยความสะดวกด้านการขนส่ง การส่งออก และสนับสนุนการขนส่งทางรถไฟ
- เปิดให้ ICD เช่น ลาดกระบัง ตรวจปล่อยสินค้าขาออกได้โดยตรง
3) พัฒนาระบบถ่ายลำสินค้า (Transshipment)
- ทำใบขนสินค้าแบบอัตโนมัติที่ท่าเรือแหลมฉบัง
- ลดขั้นตอนจากเดิมที่ต้องติดต่อถึง 17 หน่วยงาน
- คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม
4) ปราบปรามสินค้าผิดกฎหมาย
- เน้นสินค้าทุ่มตลาด
- สินค้าปลอมแปลงถิ่นกำเนิด
- สินค้าไม่ได้มาตรฐาน
นโยบายใหม่ของกรมศุลกากร มุ่งสร้างความเป็นธรรมทางการค้า เพิ่มรายได้รัฐ และปกป้องผู้บริโภค พร้อมทั้งยกระดับการอำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจควบคู่ไปกับการป้องกันสินค้าผิดกฎหมาย
===========
🚩CPD/CPA/ผู้ประกอบการ/HR📚 เตรียมพบ🎯คอร์สตอบโจทย์ในปี 2569! พร้อมรับสิทธิ์สำรองที่นั่งฟรีรอบอบรมสมาชิกสถาบัน KASME สมัครสมาชิกฟรีได้ทาง https://forms.gle/XD6tejbuDzXer9Vc7
===========
สถาบัน KASME🔵
รหัสสถาบัน 06-153(สภาฯบัญชี)
รหัสองค์กร 3-0011(กรมสรรพากร)
โทร 099 289 8974, 033 060 395, LINE: KASMETHAI
Email: mykasme@gmail.com เว็บไซต์สถาบัน: www.kasmethai.com
x
สถาบัน Intrans
การปฏิรูปศักยภาพมนุษย์อย่างบูรณาการ
Website: www.intranshipot.com














































ความคิดเห็น